ในการเจรจาต่อรอง (Negotiation) นั้น ส่วนใหญ่จะเกิดขึ้นในห้องประชุมหรือเมื่อเราพบปะกับลูกค้า ซึ่งแน่นอนเราไม่จำเป็นต้องตกลงกับข้อเสนอ (Offer) ของคู่ค้าเสมอไป เพราะบางทีฝ่ายของเราเองก็มีข้อจำกัดในหลายเรื่อง โดยเฉพาะเรื่องงบประมาณและราคา แต่จะเจรจาต่อรอง (Negotiate) ยังไงให้ดูมีชั้นเชิงและดูสมาร์ทยิ่งขึ้น? วันนี้ Now I Love English ของเรามีเทคนิคดี ๆ พร้อมประโยคเจรจาต่อรองราคาเจ๋ง ๆ มาแนะนำ บอกเลยว่างานนี้สามารถนำไปใช้ได้ทันทีแน่นอน!
คำศัพท์สำคัญในการเจรจาต่อรองราคา
price = ราคา
negotiate = เจรจาต่อรอง
negotiation = การเจรจาต่อรอง
open negotiation = เปิดการเจรจาต่อรอง
reject = ปฏิเสธ
suggest = เสนอ
offer = ข้อเสนอ
accept = ตกลง, ยอมรับ
ประโยคเด็ดในการเจรจาต่อรองราคาเป็นภาษาอังกฤษ
การเป็นนักเจรจาที่ดี ต้องอาศัยทั้งศิลปะในการพูด เพราะจะต้องใช้ทั้งน้ำเสียง (Tone) ที่เหมาะกับสถานการณ์และท่าทางประกอบหรือภาษากาย (Body Language) ที่ดูเป็นมืออาชีพ ส่วนจะมีประโยคไหนที่ทำให้การเจรจาต่อรองกับคู่ค้าเป็นไปอย่างราบรื่น มาดูพร้อมกันได้เลย
การเปิดการเจรจาต่อรอง (Opening Negotiation) และการปฏิเสธข้อเสนอ (Rejecting Offer)
ในการเปิดการเจรจาต่อรอง – ให้ถามฝ่ายตรงข้ามหรือคู่ค้าก่อนว่า ฝ่ายนั้นโอเคไหมหากเราจะต่อรองราคา หรือจะถามไปเลยก็ได้ว่า…
>> Is this a fixed price? = อันนี้เป็นราคาตายตัวหรือเปล่าคะ/ครับ?
ฝ่ายตรงข้ามอาจจะตอบกลับมาว่า…
>> What did you have in mind? = ราคาที่คุณคิดไว้คือเท่าไหร่คะ/ครับ?
เมื่อฝ่ายตรงข้ามตอบมาแบบนี้ จำไว้นะคะว่านักต่อรองที่ดีจะไม่เสนอราคาไปเลยทันที แต่จะถามเพื่อหยั่งเชิงก่อน ด้วยประโยคที่ว่า…
>> What could you come down to? = คุณสามารถลดราคาได้เท่าไหร่คะ/ครับ?
หากหลังจากที่คู่ค้าเสนอราคามาแล้วยังไม่โดน หรือยังเยอะเกินงบที่เราตั้งไว้ ก็ยังต่อรองได้อีกว่า…
>> What’s the best price you can do it for? = คุณลดราคาได้มากที่สุดเท่าไหร่/ราคาที่ดีที่สุดของคุณคือเท่าไหร่?
และหากราคาที่ดีที่สุดของฝ่ายตรงข้ามยังไม่ได้อีกและราคายังสูงเกินไป เราก็สามารถตอบไปด้วย 2 ประโยคดังต่อไปนี้…
>> That sounds like a lot. = ราคายังแอบสูงอยู่นะคะ/ครับ
>> The price is higher than I’m willing to pay. = ราคานี้สูงกว่าที่ฉัน/ผมจะยอมจ่าย
หรือจะบอกว่า The price is still higher than I expected. ก็ได้ แปลว่า ราคายังสูงกว่าที่ฉัน/ผมคิดไว้นะคะ/ครับ
การเสนอราคา (Suggesting Price) ที่เราจ่ายไหว
หากคุยกันถึงจุดที่เรารับราคาของอีกฝ่ายไม่ได้ ก็ถึงคราวที่ต้องเสนอราคาที่เราจ่ายไหว โดยสามารถถามไปได้เลยว่า…
>> Can you bring it down to XXX Baht? = คุณลดราคาเหลือ XXX บาทได้ไหมคะ/ครับ?
หรือจะขอเจอกันที่ครึ่งทาง ก็สามารถถามคู่ค้าได้ว่า…
>> How about if we meet halfway? = เรามาเจอกันครึ่งทางได้มั้ยคะ/ครับ?
>> Will you meet me halfway? = เรามาเจอกันครึ่งทางได้มั้ยคะ/ครับ?
>> Will you meet me in the middle? = เรามาเจอกันครึ่งทางได้มั้ยคะ/ครับ?
การตอบรับข้อเสนอ (Accepting Offer)
เมื่อเราเจรจาต่อรองจนได้ราคาที่พอใจทั้งสองฝ่ายแล้ว ก็สามารถพูดปิดท้ายเพื่อตอบรับข้อเสนอได้เลยว่า…
>> You have a deal. เป็นการแสดงว่าเราตกลงกับข้อเสนอของอีกฝ่าย
เทคนิคในการเจรจาต่อรองเป็นภาษาอังกฤษ
อย่างที่บอกไปแล้วนะคะว่าการเจรจาต่อรองภาษาอังกฤษคือศิลปะในการพูดกัน ซึ่งน้ำเสียงหรือโทน (Tone) ก็สำคัญมาก เพราะสามารถสื่อถึงอารมณ์และความหนักแน่นของเราได้เป็นอย่างดี โดยการใช้เสียงสูง (Rising Tone) ในการถามคำถามนั้นจะดูสภาพมากกว่า ในขณะเดียวกัน หากถามคำถามด้วยโทนเสียงต่ำ (Falling Tone) ก็จะดูไม่สุภาพไปเลย ดังนั้นต้องระวังให้ดี ๆ นะคะ แล้วถ้าอยากดูหน้าเชื่อถือและหนักแน่นมั่นใจเวลาเสนอข้อตกลง เราสามารถทำหน้านิ่ง ๆ เพื่อยืนยันข้อเสนอและบอกอีกฝ่ายเป็นนัยว่าเราเต็มใจจ่ายราคานี้เท่านั้นได้ค่ะ
และทั้งหมดนี้ก็คือ การเจรจาต่อรองเป็นภาษาอังกฤษพร้อมเทคนิคสุดเด็ดที่จะทำให้เราดูเป็นมืออาชีพมากขึ้นค่ะ และถ้าอยากอัพสกิลการเจรจาต่อรองภาษาอังกฤษให้แอ้ดว๊านซ์กว่าเดิม พร้อมเรียนทักษะการทำงานครบรอบด้าน ทั้งการนำเสนองาน (presentation) ประชุม (meeting) เขียนอีเมล (email writing) และทักษะจำเป็นอื่น ๆ ที่ Now I Love English ของเราก็มีคอร์สเรียนภาษาอังกฤษสำหรับวัยทำงานให้คุณอัพระดับภาษาอังกฤษได้ง่ายและเร็วยิ่งขึ้น อยากเก่งภาษาอังกฤษ? รีบลงทะเบียนเรียนเลยตอนนี้!
